กูดพร้าว

ต้นกูดพร้าว จัดเป็นเฟิร์นต้นที่มีลำต้นตั้งตรง สูงได้ประมาณ 3-5 เมตร ตามลำต้นมีเกล็ดขึ้นปกคลุมและมีรอยก้านใบที่หลุดร่วงไป รากมีลักษณะเป็นเส้นแข็งสีดำ มีเขตการกระจายพันธุ์ในจีนตอนใต้ กัมพูชา มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ส่วนในประเทศไทยพบขึ้นกระจายพันธุ์ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคใต้ โดยมักพบขึ้นตามไหล่เขาในป่าดิบเขา บนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลต่ำกว่า 1,000 เมตร

ใบกูดพร้าว ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้น ออกรวมกันเป็นกลุ่มบริเวณใกล้ยอด แกนกลางของใบประกอบไม่เรียบ มีตุ่มขรุขระทางด้านล่าง ส่วนด้านบนมีขนและเกล็ดขึ้นประปราย ก้านใบเป็นสีน้ำตาลปนเหลืองหรือสีน้ำตาลเข้ม ยาวได้ประมาณ 40 เซนติเมตร มีหนามสั้น ๆ ที่โคนมีเกล็ดสีน้ำตาลเป็นมัน เกล็ดมีลักษณะเป็นรูปแถบ มีขนาดกว้างประมาณ 1 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 2 เซนติเมตร ด้านบนมีขน กลุ่มใบย่อยคู่ล่างลดขนาดลงยาวได้ประมาณ 10 เซนติเมตร มีรูปร่างไม่แน่นอน ส่วนกลุ่มใบย่อยถัดขึ้นมาจะมีลักษณะเป็นรูปขอบขนานแคบ ปลายเรียวแหลมและมีติ่งยาว มีขนาดกว้างประมาณ 14 เซนติเมตร และยาวประมาณ 40 เซนติเมตร แกนกลุ่มใบย่อยมีเกล็ดแบนสีน้ำตาลทางด้านล่าง ใบย่อยจะมีมากกว่า 25 คู่ เรียงห่างกันประมาณ 1.6 เซนติเมตร ลักษณะเป็นรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก มีขนาดกว้างประมาณ 1.7 เซนติเมตร และยาวประมาณ 7 เซนติเมตร ปลายเรียวแหลม โคนกึ่งตัด ส่วนขอบหยักเว้าลึกเกือบถึงเส้นกลางใบย่อย หยักเฉียง รูปเคียว มีขนาดกว้างประมาณ 3 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ปลายมน ส่วนขอบเรียบหรือจักเป็นฟันเลื่อย เส้นกลางใบย่อยมีขนทางด้านบน ส่วนด้านล่างมีเกล็ดแบนสีน้ำตาล แผ่นใบบาง ผิวใบด้านบนเป็นสีเขียวเข้ม ส่วนด้านล่างเป็นสีเขียวอ่อน เส้นใบแยกสาขาออกเป็นคู่ 7-8 คู่ ก้านใบย่อยไม่มี

สรรพคุณของกูดพร้าว
แพทย์แผนชนบทจะใช้เนื้อไม้นำมาทำเป็นยาแก้ไข้ ใช้ฝนเป็นยาทาแก้ฝี แก้อักเสบ และแก้บวม (เนื้อไม้)

ประโยชน์ของกูดพร้าว
ลำต้นของกูดพร้าวสามารถนำมาใช้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ได้